Saving Private Ryan (1998) Movie Review
Saving Private Ryan (1998) Movie Review
Blog Article
รีวิวหนัง Saving Private Ryan (1998)
ข้อมูลหนัง
ชื่อเรื่อง ฝ่าสมรภูมินรก (Saving Private Ryan)
ประเภท ดราม่า / แอคชั่น / สงคราม
ผู้กำกับ สตีเวน สปีลเบิร์ก
นำแสดงโดย ทอม แฮงส์, ทอม ไซส์มอร์, เอ็ดเวิร์ด เบินส์, แบร์รี่ เปปเปอร์, อดัม โกลด์เบิร์ก
ความยาว 162 นาที
เรื่องย่อ
ดูหนัง 2024 aving Private Ryan เป็นภาพยนตร์สงครามมหากาพย์อเมริกันปี 1998 กำกับโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก และเขียนบทโดยโรเบิร์ต โรดาต เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1944 ที่นอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นเรื่องราวของกลุ่มทหารที่นำโดยกัปตันจอห์น มิลเลอร์ (ทอม แฮงค์ส) ในภารกิจตามหาพลทหารเจมส์ ฟรานซิส ไรอัน (แมตต์ เดมอน) และนำเขากลับบ้านอย่างปลอดภัยหลังจากที่พี่ชายทั้งสามของเขาเสียชีวิตในสนามรบ นักแสดงนำยังได้แก่ เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส์, ทอม ไซซ์มอร์, แบร์รี เปปเปอร์, จิโอวานนี ริบิซี, วิน ดีเซล, อดัม โกลด์เบิร์ก และเจเรมี เดวีส์
ทภาพยนตร์เรื่อง Saving Private Ryan ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือของ Stephen E. Ambrose และเรื่องราวของทหารหลายนายในครอบครัวเดียวกัน เช่น พี่น้องตระกูล Niland ที่เสียชีวิตในการรบ Rodat จึงได้ร่างบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา และ Paramount Pictures ก็จ้างเขาให้เขียนบทให้เสร็จ โปรเจ็กต์นี้ได้รับความสนใจจาก Hanks และ Spielberg ซึ่งการมีส่วนร่วมของพวกเขาจากความสำเร็จครั้งก่อนๆ ของพวกเขาทำให้โปรเจ็กต์นี้ประสบความสำเร็จ
Spielberg ต้องการทำให้ Saving Private Ryan ดูเหมือนจริงมากที่สุด จึงจ้าง Frank Darabont และ Scott Frank ให้เขียนบทใหม่โดยไม่ให้เครดิตโดยอิงจากการค้นคว้าและสัมภาษณ์ทหารผ่านศึก นักแสดงหลักต้องเข้าค่ายฝึกทหารเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจประสบการณ์ของทหารคนนี้ การถ่ายทำใช้เวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน พ.ศ. 2540 โดยใช้งบประมาณ 65–70 ล้านดอลลาร์ โดยถ่ายทำเกือบทั้งหมดในสถานที่จริงในอังกฤษและไอร์แลนด์ ฉากเปิดเรื่องการต่อสู้ที่หาดโอมาฮาเป็นฉากที่ต้องใช้ความพยายามมากที่สุด โดยมีค่าใช้จ่าย 12 ล้านดอลลาร์ในการถ่ายทำเป็นเวลาสี่สัปดาห์ และใช้นักแสดงประกอบ 1,500 คน
Saving Private Ryan กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปี โดยได้รับคำชมจากนักวิจารณ์สำหรับการถ่ายทอดฉากการต่อสู้ได้อย่างสมจริง ทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวถึงฉากการต่อสู้ว่าเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเองที่สมจริงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา บางคนบอกว่าไม่สามารถรับชมได้เนื่องจากความทรงจำที่เลวร้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ 481.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสองของปี 1998 และได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ สถาบันศิลปะการป้องกันตัว รางวัลบาฟตา และรางวัลแซทเทิร์น
Saturn ถือเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่ง เทคนิคการถ่ายทำฉากต่อสู้ของ Saving Private Ryan ส่งผลต่อภาพยนตร์สงคราม ภาพยนตร์แอคชั่น และภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อีกหลายเรื่องในเวลาต่อมา และผู้กำกับหลายคนก็ยกย่องว่า Saving Private Ryan มีอิทธิพลต่อพวกเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าช่วยจุดประกายความสนใจในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้งในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และวิดีโอเกมอื่นๆ ที่มีฉากในช่วงสงคราม ในปี 2014 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเลือกให้เก็บรักษาไว้ในทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกาโดยหอสมุดรัฐสภา เนื่องจาก "มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสุนทรียศาสตร์"
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมาจริงๆโอ้ หนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่าหนังสงครามมันก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเอาไว้ เอาตรงๆ เราไม่ค่อยชอบดูหนังแบบนี้เท่าไหร่ หลับตลอดอ่ะ555555 แต่เรื่องนี้คือมันดึงดูดเรามาก ทุกฉาก ทุกซีน ทุกเม็ด คือมันดีจริงชื่อเรื่องคือแบบแปลกมากสำหรับเรา แปลตรงๆ จะได้ประมาณว่า 'ช่วยเหลือไรอันแบบเป็นส่วนตัว' นี่ก็คิดแบบ อะไรของมันวะ555555 แต่จริงๆ แล้วไอ้คำว่า Private ในที่นี้หมายถึงยศของทหารนั่นเองจ้า ชื่อเรื่องนี้จึงหมายถึง 'การช่วยเหลือพลทหารไรอัน' นั่นเองเนื้อเรื่องรวมๆ 2u-hd.com
เล่าถึงกองทัพทหารกลุ่มนึงซึ่งนำโดยผู้กองจอห์นที่พึ่งเคลียรเหล่าทหารของฮีตเลอร์ในวันดีเดย์เสร็จ ก็ได้รับภารกิจใหม่ให้ไปช่วยเหลือพลทหารไรอัน ซึ่งพี่น้องทั้ง 3 ของเค้าได้ตายในสงครามแล้ว ทางกองทัพเลยอยากนำตัวไรอันซึ่งเป็นลูกคนสุดท้ายกลับไปคืนแม่โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เลยส่งกองทัพของผู้กองจอห์นเนี่ยไปช่วยเหลือตามล่าหาไรอันที่โดดร่มหลงหายไปไหนก็ไม่รู้
ชอบประเด็นความลังเลในจิตใจของพลทหารในกองทัพทหารมาก คือเหมือนมันก็จริงอ่ะ ให้เราแบบสละชีวิตเสี่ยงตายเดินทางไกลท่ามกลางสงครามอันวุ่นวายเพื่อมาช่วยคนๆ เดียวเราก็ไม่เอาเหมือนกัน ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแค่ไหนถึงจะยอมได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ระหว่างการเดินทางจะมีเรื่องราวมากมายและคำพูดที่กัดกินใจเราได้หลายประโยค และทุกสิ่ง ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวละครคือมันโคตรเรียล
ดูเรื่องนี้แล้วเหมือนเราได้ร่วมเดินทางไปกับผู้กองจอห์นด้วยยังไงอย่างงั้น ฉากรบก็ทำได้ตื่นเต้นและน่าลุ้นเว่อร์ ฉากดราม่าก็ทำได้ซึ้งกินใจเว่อร์ เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ เราว่าการดำเนินเรื่องของหนังทำได้มีเสน่ห์และน่าติดตามมากๆ ถึงไม่ใช่ฉากยิงกันปิ้วๆ แค่ฉากพลทหารเดินทางหรือพูดคุยกัน แต่ทำออกมาได้น่าติดตามจริงๆ
ฉากเริ่มกับฉากจบเป็นอะไรที่แบบชอบมาก มันอาจจะมีเกลื่อนทั่วไปแล้วสำหรับการเริ่มเล่าเรื่องและตอนจบแบบนี้ แต่เราก็ยังคงชอบนะ ดูแล้วแบบเออ มันเป็นความทรงจำที่ตราตรึงใจดี อะไรแบบนี้
ขออีกนิดนึงว่าฉากรบเป็นอะไรที่ดีงามมาก ระเบิดเป็นระเบิด รถถังเป็นรถถัง ปืนใหญ่เป็นปืนใหญ่ เรารู้สึกว่ามันสมจริงและอลังการงานสร้างมาก ฆ่าคือฆ่า เลือดคือเลือด เห็นชัดทุกองศาเลยจริงจัง
#ดูหนัง2024 #SavingPrivateRyan #เซฟวิ่งไพรเวทไรอันฝ่าสมรภูมินรก
กลับด้านบน Report this page